วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2565

ตำนานเมดูซ่า เหตุใดเธอถึงถูกสาปเป็นหิน

 ตำนานเมดูซ่า  เหตุใดเธอถึงถูกสาปเป็นหิน 



เดิมที “เมดูซ่า” เป็นมนุษย์ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง เธอมีหน้าตาที่สวยที่สุดในกรุงเอเธนส์ ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณหรือใบหน้าของเธอ แต่สิ่งที่งดงามที่สุดจนทำให้คนพูดถึงเมดูซ่านั่นก็คือเส้นผมของเธอที่สลวยสวยงามเหมือนเส้นไหมสีทอง เมดูซ่าเป็นหนึ่งในสามพี่น้องที่เป็นลูกของ “เมทิส” (Metis) เจ้าแห่งสติปัญญาที่สามารถแปลงกายเป็นสิ่งต่าง ๆ ได้มากมาย ในเวลาต่อมา “ซุส” (Zeus) ต้องการพลังของเมทิส ซุสจึงวางแผนหลอกให้เมทิสเข้าไปหา และทำการข่มขืนเมทิส ก่อนที่จะล่อลวงให้เมทิสแปลงกายเป็นสัตว์เล็กอย่างแมลงวันแล้วจับกินเข้าไป ทำให้ซุสได้ครอบครองพลังแห่งสติปัญญาในที่สุด แต่เมทิสไม่ได้ตายทันทีหลังจากที่โดนซุสกินเข้าไป เนื่องจากพลังของเธอมีความแข็งแกร่งในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เธอจึงขึ้นไปอยู่บนหัวของซุสและได้ปล่อยพลังของเธอออกมา ทำให้ซุสปวดหัวอย่างรุนแรงจนถึงขั้นหัวของซุสระเบิดออกมา และสิ่งที่ออกมาจากหัวของซุสก็คือ “อะธีน่า” (Athena) เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ซึ่งตรงนี้หลายคนอาจจะงงว่าทำไมถึงมีเทพีอะธีน่าออกมา เนื่องจากว่า ณ ตอนนั้น เมทิสกำลังตั้งท้องลูกคนที่ 4 อยู่ และซุสไม่รู้ว่าเมทิสกำลังตั้งท้อง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ออกมาจากหัวของซุสก็คือลูกของเมทิส






ต่อมาอะธีน่าโตขึ้น เธอเพิ่งรู้ในภายหลังว่าเธอมีพี่น้องร่วมท้องเดียวกันถึง 3 คน ก่อนที่เมทิสจะมีเธอ ซึ่งใน 3 คนนี้ ทุกคนหน้าตาดี สละสวยกันทั้งหมด ด้วยความอิจฉาของอะธีน่าเธอจึงต้องการที่จะกำจัดพี่น้องของตัวเองออกไป แต่ด้วยความที่ลูกสาว 2 คนแรกของเมทิสเป็นเทพ เธอจึงไม่สามารถจัดการกับ 2 คนนี้ได้ แต่เมดูซ่าเป็นกึ่งคนกึ่งเทพ ดังนั้นเป้าหมายชองอะธีน่าจึงตกไปอยู่ที่เมดูซ่าเต็ม ๆ แต่เมดูซ่าได้บำเพ็ญตัวเป็นนักบวชอยู่ในวิหารของอะธีน่า และด้วยความที่อะธีน่าเป็นเทพีแห่งสติปัญญา เธอจึงไม่สามารถทำอะไรบุ่มบ่ามได้แต่แล้ววันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เมื่อเทพแห่งท้องทะเลอย่าง “โพไซดอน” (Poseidon) ที่ได้ยินชื่อเสียงเรียงนามเรื่องความงามของเมดูซ่ามานาน 


เขาเป็นอีกคนที่ต้องการเมดูซ่ามาครอบครอง โพไซดอนบุกเข้าไปข่มขืนเมดูซ่ากลางวิหารของอะธีน่า ซึ่งตอนนั้นอะธีน่ารู้แล้วว่าเมดูซ่าถูกข่มขืนในวิหารศักดิ์สิทธิ์ของเธอ แต่อะธีน่าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชังและอิจฉาเมดูซ่าอยู่แล้ว เธอจึงประกาศให้ทุกคนในเมืองรู้ว่า เมดูซ่าถูกขโมยพรหมจรรย์ที่กลางวิหารศักดิ์สิทธิ์ของอะธีน่า  จากเหตุการณ์นี้ทำให้เมดูซ่าไม่สามารถอยู่ในวิหารนี้ได้อีกต่อไป และเธอยังถูกขับไล่ออกจากเมืองอีกด้วย แต่ก่อนที่จะถูกขับไล่ อะธีน่าได้สาปให้เธอกลายเป็นปีศาจครึ่งคนครึ่งงู จากผิวพรรณที่ขาวเนียน กลับกลายเป็นผิวแห้งเหี่ยว และมีเกล็ดขึ้นคล้ายกับงู หน้าตาตกสะเก็ด มีเขี้ยวออกมาคล้ายงู แต่สิ่งที่น่าสงสารที่สุดก็คือ ผมของเธอจากที่สวยราวกับเส้นไหมทอง กลายเป็นงูนับพันเลื้อยยั้วเยี้ยเต็มหัว แต่ยังไม่จบเพียงเท่านั้น เพราะอะธีน่าก็ยังมีความกังวลเรื่องความสวยของเมดูซ่าอยู่ เธอจึงสาปคำสาบอีกข้อหนึ่งให้กับเมดูซ่า นั่นก็คือ หากใครมองไปที่ใบหน้าของเมดูซ่าแล้วจ้องไปที่ดวงตาของเธอ 


ข่าวของเมดูซ่าที่ถูกสาปให้เป็นปีศาจงูเริ่มแพร่กระจายออกไปยังชาวบ้าน และยังถูกปั่นกระแสให้เธอดูน่ากลัวมากขึ้น จากที่เธอมีหน้าตาที่น่าเกลียดน่ากลัวอยู่แล้ว ก็มีคนไปพูดว่า เธอทำผิดมหันต์จึงถูกสาปให้เป็นปีศาจงู เธอชั่วร้ายอย่างนั้น เธอชั่วร้ายอย่างนี้ จึงทำให้เธอถูกตราหน้าว่าเป็นปีศาจที่ชั่วร้าย และยังถูกปล่อยข่าวอีกว่า ถ้าใครมองหน้าเมดูซ่าจะถูกสาปให้กลายเป็นหิน จนทำให้คนที่ไม่รู้จักตัวตนของเธอจริง ๆ ยิ่งเข้าใจว่าเธอน่ากลัวและชั่วร้ายมาก หลังจากที่เมดูซ่าได้ยินข่าวแบบนั้น เธอก็เริ่มถูกชาวบ้านขับไล่ออกจากเมือง จนสุดท้ายเธอต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครพบเจอเธอได้อีก จนวันหนึ่ง “เพอร์ซีอุส” (Perseus) ลูกครึ่งเทพของซุส และยังเป็นญาติห่าง ๆ กับเทพีอะธีน่า ได้เดินทางมาขอความช่วยเหลือจากเหล่าเทพเพื่อไปฆ่าเมดูซ่า และจะเอาหัวเมดูซ่าไปถวายให้ราชา เทพีอะธีน่าที่แทบจะลืมเมดูซ่าไปแล้ว เมื่อเห็นว่าจะมีคนไปฆ่าเมดูซ่า ซึ่งเธอเองก็เคยปรารถนาเอาไว้อยู่แล้ว เธอจึงได้ยื่นมือเข้าไปช่วย และมอบอาวุธให้กับเพอร์ซีอุส ซึ่งก็คือโล่ เพราะเนื่องจากไม่สามารถมองหน้าเมดูซ่าโดยตรงได้ อะธีน่าจึงให้เพอร์ซีอุสใช้โล่เป็นตัวสะท้อนแทนดวงตาเพื่อดูว่าเมดูซ่าอยู่ตรงไหน จนเพอร์ซีอุสสามารถฆ่าและเอาหัวของเมดูซ่ากลับมาได้สำเร็จ

 

ถึงแม้ว่าเมดูซ่าถูกเพอร์ซีอุสฆ่าตายไป แต่ชะตากรรมของเธอก็ยังไม่หมดแค่นั้น หัวของเธอยังถูกนำไปใช้สาปสิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ให้กลายเป็นหิน หัวของเธอถูกนำไปใช้งานอยู่หลายครั้ง แต่สุดท้ายหัวของเธอก็ได้ไปตกอยู่กับอะธีน่า และอะธีน่าก็ได้นำหัวของเมดูซ่าไปประดับไว้ที่โล่ของเธอเอง เพื่อความน่าเกรงขามและเป็นการบ่งบอกว่าเธอเป็นคนช่วยให้เพอร์ซีอุสฆ่าเมดูซ่าได้สำเร็จ เรื่องราวของเมดูซ่านั้นได้มีการเผยแพร่มากมาย เราจะพบเห็นได้บ่อยจากในหนังเรื่องต่าง ๆ เช่น “Clash of the Titans” ซึ่งในเรื่องนี้ได้มีการอ้างอิงเรื่องราวของเมดูซ่าและเพอร์ซีอุสตามตำนาน หรือจะเป็นเรื่อง “Percy Jackson” ใครเคยดูก็จะเห็นว่ามีการหยิบตัวละครของเมดูซ่าเข้ามาในเรื่องด้วยเหมือนกัน แต่เมดูซ่าในเรื่องนี้ถูกตีความลักษณะของเมดูซ่าไปอีกแบบ จึงทำให้เมดูซ่าในเรื่องนี้ดูมีความเป็นคนอยู่มาก ดูไม่ค่อยเหมือนปีศาจที่เราคุ้นเคย และไม่ใช่แค่ในหนังหรือภาพยนตร์ที่เราได้เห็นเมดูซ่า ในปัจจุบันยังมีปฏิมากรรม รูปปั้นต่าง ๆ ที่เผยให้เห็นตัวเมดูซ่า อย่างรูปปั้นที่เราเคยเห็นกันก็จะเป็นรูปปั้นเพอร์ซีอุสถือหัวเมดูซ่า รูปปั้นนี้มีความโด่งดังมาก แต่อย่างที่เราเริ่มรู้กันว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเมดูซ่าสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมการข่มขืนในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ที่ผู้ถูกกระทำจะถูกมองว่าเป็นฝ่ายผิด จนทำให้ช่วงหลัง ๆ เริ่มมีกระแสผู้ที่สนับสนุนกลุ่ม “Feminist” มากขึ้น และเริ่มเป็นที่พูดถึง ผู้คนเริ่มให้ความสนใจกัน เลยมีการยกเคสของเมดูซ่าขึ้นมาเป็นตัวอย่างของความไม่ยุติธรรม จึงทำให้เริ่มมีการปั้นหุ่นเมดูซ่าหิ้วหัวเพอร์ซีอุสขึ้นมา เพื่อต้องการแสดงถึงความเท่าเทียมทางเพศของผู้หญิงและผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีผลงานต่าง ๆ อีกมากมาย ที่เริ่มใช้มุมมองของเมดูซ่าเป็นหลัก แล้วนำมาตีความใหม่เพื่อทวงความยุติธรรมให้เมดูซ่าและผู้หญิงที่ตกอยู่ในสถานะเช่นเดียวกันกับเมดูซ่า 




เรื่องราวของเมดูซ่าทั้งหมดทำให้เห็นว่าในความจริงแล้ว เมดูซ่าไม่ได้ทำผิดอะไรเลย เพราะเมดูซ่าก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ที่บำเพ็ญตนเป็นนักบวชในวิหารของอะธีน่าอย่างเคร่งครัด และถือพรหมจรรย์มาโดยตลอด แต่เธอต้องมาถูกข่มขืน แถมเธอยังถูกเกลียดและถูกอิจฉาจากคนบางกลุ่มเท่านั้น ทำให้เธอไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกสาปเป็นปีศาจร้าย ถึงแม้ว่าเมดูซ่าจะมีพลังที่สามารถสาปให้ผู้คนกลายเป็นหินได้ เธอก็ไม่ได้อยากจะใช้มันสักเท่าไหร่ เธอพยายามหนีไปอยู่ในถ้ำที่ไกลแสนไกลไม่ให้มีใครหาตัวเธอเจอ แต่เหล่าวีรบุรุษทั้งหลายก็หยิบเธอเอามาเป็นภารกิจ เป็นเรื่องธรรมดาที่เวลามีคนเข้ามาบุกรุกและพยายามทำร้าย เธอก็ต้องป้องกันตัวเองจากคนกลุ่มนั้น แต่ทำไมคนถึงพูดถึงแต่ในมุมของเพอร์ซีอุสเท่านั้น และยกย่องให้เพอร์ซีอุสเป็นวีรบุรุษ ไม่ค่อยมีใครพูดถึงในมุมของเมดูซ่าสักเท่าไหร่ โดยรวมแล้วเธอมีชีวิตที่สุดแสนรันทดและน่าสงสาร


Lisa118 กับบทความที่เกี่ยวข้อง  :

https://lisa118ph.blogspot.com/

https://ka-si-no.blogspot.com


ติดตามกิจกรรมกับเรา Lisa118 :

FB: https://www.facebook.com/Lisa118sp Twister: https://twitter.com/Lisa118s Tiktok: www.tiktok.com/@lisa118sp IG:https://instagram.com/lisa118s?r=nametag

web :www.lisa118.com


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

10 โจรสลัดในตำนาน ที่เคยยึดครองท้องทะเลในอดีต จนถูกเล่าขานมาถึงปัจจุบัน…

โจรสลัด Queen Of Bounty   เกมสล็อต ราชินีแห่งเงินค่าหัว โจรสลัด   สลัด หรือซือลัตมาจากภาษามลายู แปลว่าช่องแคบ ( อังกฤษ :  Pirate, Buccaneer...